ก่อนจะไปเริ่มเดิมพันต้องรู้ก่อนว่า ไพ่บาคาร่ามีกี่ใบ ใช้การออกรางวัลแบบไหนที่จะเอาชนะได้ รายละเอียดต่างๆ ในเกมเป็นความสำคัญที่นักเล่นต้องรู้ โดยการออกรางวัลไพ่บาคาร่าจะใช้ไพ่ทั้งหมดมากถึง 416 ใบ เพื่่อกระจายโอกาสการชนะให้มีเปอร์เซ็นต์ความแม่นยำที่มากขึ้น และในการเดิมพันบาคาร่าไม่ใช่เพียงแค่แทงสุ่มวัดดวงแต่การอ่านไพ่เป็น นับไพ่ได้ เพื่อวางแผนการเล่นและค้นหาเทคนิคการแทงในแบบของคุณ เราจึงรวบรวมทุกความสำคัญของกติกาการแทง จำนวนไพ่ที่ออกรางวัล การนับแต้ม เงื่อนไขพิเศษ ให้นักเล่นมีข้อมูลเพื่อการเดิมพันที่ครบถ้วนที่สุด
ไพ่บาคาร่ามีกี่ใบ ที่ใช้ในเกม พร้อมวิธีการอ่าน และนับแต้ม ที่ถูกต้อง
เมื่อรู้แล้วว่า ไพ่บาคาร่ามีกี่ใบ ที่ใช้ในเกม ซึ่งทั้ง 416 นั้น จะมาจากไพ่ทั้งหมด 8 สำรับ สำรับละ 52 ใบ ใช้ออกรางวัลฝั่งละ 2 ใบ คือฝั่งเจ้ามือ (Banker) และ ฝั่งผู้เล่น (Player) รวมแล้วในหนึ่งเกมจะใช้ไพ่ 4 ใบในการตัดสิน แต่ก็จะมีบางเกมที่ใช้ไพ่เพิ่มด้วยการจั่วอีก 1 ใบ แต่ต้องเปิดไพ่ชุดเดิมก่อนว่าแต้มเข้าเงื่อนไขที่จะจั่วได้หรือไม่ โดยมีวิธีการอ่านไพ่ การนับแต้ม และการตัดสินรางวัลที่ถูกต้อง ดังนี้
วิธีการนับแต้ม
ก่อนจะนับแต้ม ไพ่บาคาร่ามีกี่ใบ ต้องรู้ก่อนว่าไพ่มีดอกไพ่หรือหน้าไพ่ทั้ง 4 รูปแบบ คือ ดอกจิก โพธิ์ดำ โพธิ์แดง และ ข้าวหลามตัด
การนับแต้มก็จะนับจากตัวเลขที่แสดงบนไพ่ตรงตัวคือ 2 – 9 ดังนั้น ใน 1 สำรับจะมีไพ่ตัวเลขทั้งหมด 32 ใบ (ไพ่ 8 ใบต่อหนึ่งดอกไพ่) และไพ่ทั้งหมด 8 สำรับก็จะมีไพ่ตัวเลขเท่ากับ 256 ใบ
ไพ่ A หรือ Age ที่แทนเลข 1 ใน จะมี 4 ใบต่อสำรับ ในเมื่อใช้ไพ่ทั้งหมด 8 รับ ก็จะมีไพ่ A ทั้งหมด 32 ใบ
ไพ่หัวหรือไพ่สัญลักษณ์ J,Q,K และไพ่เลข 10 ในเกมบาคาร่าจะไม่มีค่าในการนับแต้ม จะถือเป็น 0 ทั้งหมด ซึ่งใน 1 สำรับจะมีไพ่หัวและไพ่เลข 10 รวมทุกดอกแล้วเท่ากับ 16 ใบ ไพ่ที่ใช้ทั้งหมด 8 สำรับจะเป็นไพ่หัวทั้งหมด 128 ใบ
วิธีการตัดสินผลรางวัล
นับแต้มเป็นแล้ว รู้ว่า ไพ่บาคาร่ามีกี่ใบ แล้ว ถัดไปก็ต้องรู้ว่าการตัดสินกติกาพื้นฐานตัดสินอย่างไร นับแต้มแบบไหนบ้าง เป็นส่วนสำคัญที่ต้องรู้เพื่อการวางแผนการแทงให้แม่นยำมากที่สุด อย่างที่บอกไปแล้วการเล่นบาคาร่ามี 2 ฝั่ง คือ ฝั่งเจ้ามือ และ ฝั่งผู้เล่น โดยในเกมแจกไพ่ให้ฝั่งละ 2 ใบ วิธีการดูไพ่และตัดสินผลรางวัลก็จะนับจากแต้มของทั้งไพ่ 2 ใบรวมกัน ฝั่งไหนรวมแล้วได้แต้ม 8 หรือ 9 แต้มก็จะชนะทันที แต่หากทั้ง 2 ฝั่งยังไม่มีใครชนะก็จะจั่วไพ่เพิ่มแล้วนับแต้มรวมตัดสินอีกครั้ง
รูปแบบการแทงไพ่บาคาร่า และ อัตราการจ่าย
แต่นอกจากการแทงแบบเลือกฝั่งว่าฝั่งไหนจะชนะด้วยแต้มรวมแล้ว ก็ยังการแทงรูปแบบอื่นๆ ที่มีโอกาสในการเดิมพันและทำเงินที่มากกว่า และเสริมให้เกมบาคาร่าสนุก น่าตื่นเต้นมากกว่าด้วย มีรูปแบบการแทงและอัตราการจ่ายแต่ละแบบ ดังนี้
- แทงเจ้ามือ อัตราการจ่าย 1:0.95 เท่า
- แทงผู้เล่น อัตราการจ่าย 1:1 เท่า
- แทงเสมอ อัตราการจ่าย 8:1 เท่า
- แทงคู่ คือการแทงว่าฝั่งใดฝ่ายหนึ่งจะได้ไพ่ที่เหมือนกันทั้ง 2 ใบ อัตราการจ่าย 11:1 เท่า
- แทงไพ่คู่ คือการแทงว่าไพ่สองใบแรกของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะได้ไพ่เป็นคู่ทั้งสองใบ อัตราการจ่าย 11:1 เท่า
- แทงไพ่แต้ม 6 คือแต้มไพ่ 2 ใบแรกของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งบวกกันแล้วได้เท่ากับ 6 แต้ม อัตราการจ่าย 12:1 เท่า
- ไพ่เพอร์เฟค ทั้งผู้เล่นและเจ้ามือ ได้ไพ่เลขคู่ทั้ง 2 ใบ เหมือนกัน อัตราการจ่าย 25:1 เท่า
ไพ่บาคาร่ามีกี่ใบ จั่วเพิ่มได้หรือไม่ ฝั่งไหนจั่วได้ มีเงื่อนไข อย่างไรบ้าง
อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ต้องรู้นอกจาก ไพ่บาคาร่ามีกี่ใบ คือไพ่ทั้งหมดที่มีเหล่านั้นหลังจากแจกชุดแรกจั่วได้หรือไม่ ฝั่งไหนจั่วได้ และต้องมีเงื่อนไขอะไรที่ทำให้จั่วได้ เพราะกติกาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจั่วไพ่อาจจะทำให้ผลรางวัลเปลี่ยนแปลงและชนะขึ้นมาได้เลย
- ผู้เล่นได้ไพ่เกิน 7 แต้มแล้ว เจ้ามือไม่สามารถจั่วได้แล้ว
- เจ้ามือจะจั่วไพ่ได้ในกรณที่ได้แต้ม 3 – 6 โดยถ้าได้ 3 แต้มจะจั่วได้ต่อเมื่อผู้เล่น ได้ 4 แต้ม ต้องจั่วเสมอ เจ้ามือได้ 5 แต้มจะจั่วได้ต่อเมื่อผู้เล่นมีแต้มระหว่าง 4 – 7 แต้ม และเจ้ามือได้ 6 แต้ม จะจั่วต่อเมื่อผู้เล่นได้แต้ม 6 หรือ 7 แต้มเท่านั้น
- ผู้เล่นต่อจั่วไพ่เสมอถ้าแต้มต่ำกว่า 5 แต้ม
- ผู้เล่นได้แต้มเท่ากับ 6 ให้ดูว่าเจ้ามือได้แต้มรวม 6 – 7 หรือไม่ ถ้าใช่ให้จั่วเพิ่ม
การเล่นเกมบาคาร่าออนไลน์ถือได้ว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะนอกจากที่ผู้เล่นจะได้รับความสนุก และเพลิดเพลินจากรูปแบบเกมที่เรียบง่ายและไม่ซับซ้อนแล้ว ผู้เล่นสามารถทำกำไรได้อย่างง่ายดายเพียงเข้าใจพื้นฐานของเกม การออกรางวัล รวมถึงค่าของไพ่แต่ละใบ พื้นฐานเหล่านี้ช่วยให้ผู้เล่นสามารถวิเคราะห์รูปแบบเกม และวางแผนในการทำกำไรได้อย่างรอบครอบ